
ความกดดันของอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกเริ่มมีมากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดการชะลอตัวจากโรคระบาด Covid-19 ที่ผ่านมาทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล ที่เข้ามามีบทบาทที่สำคัญในธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต
จากการวิจัยของ WNS และ Corinium Intelligence พบว่ากว่า 90 % ของ 8 ธุรกิจภาคอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มการเติบโตของเทคโนโลยีที่ล่าช้าสำหรับรับมือกับ COVID-19 ที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียทางธุรกิจได้ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่กำลังเพิ่มมากขึ้นส่งผลดีต่อนวัตกรรมและการบูรณาการในการขับเคลื่อนการดำเนินงานการผลิตได้ในอนาคต ในบทความนี้จะพูดถึงแนวโน้มที่เป็นตัวกำหนดทิศทางการทำงานในอุตสาหกรรมการผลิตจากทั่วโลกในปี 2025 และการคาดการณ์ 5 Trend เทคโนโลยีการผลิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ทิศทางการทำงานในอุตสาหกรรม การผลิต จากทั่วโลกในปี 2025
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าหลายอุตสาหกรรมกรมได้ปรับตัวเข้าสู่รูปแบบอัจริยะมากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆเข้ามาปรับใช้ซึ่งหากเราเลือกใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ ก็จะสามารถผลักดันให้เกิดนวัตกรรมและความสามารถในการแข่งขันได้ ซึ่ง A WNS Perspective คาดการณ์แนวโน้มที่เป็นตัวกำหนดทิศทางการทำงานในอุตสาหกรรม การผลิตจากทั่วโลกในปี 2025 ไว้ดังนี้
อุตสาหกรรม การผลิต มองการณ์ไกลมากขึ้น (Foresight Factories)
อุตสาหกรรมภาคการผลิตจะเป็นผู้ริเริ่มใช้ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ และภายในปี 2025 การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลจะผลักดันให้โรงงานอัจฉริยะพัฒนาทัศนคติและการมองการณ์ไกลเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านอุปสงค์อย่างมีนัยสำคัญ การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง และทำความเข้าใจผลกระทบของการดำเนินการก่อนที่จะมีการดำเนินงานจริง ซึ่งจากการวิจัยตัวอย่างหนึ่งพบว่า ระดับการใช้ระบบอัตโนมัติโดยเฉลี่ยในโรงงานจะเพิ่มขึ้น 10 %จากร้อยละ 69 เป็นร้อยละ 79 ในอีก 10 ปี ข้างหน้าหรืออาจไวกว่านั้น แน่นอนว่าการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้จะประสบความสำเร็จได้มากที่สุด เมื่อการเชื่อมต่อครอบคลุมทุกกระบวนการปฏิบัติงาน ตัวอย่างเช่น แบรนด์ยานยนต์ชั้นนำแห่งหนึ่งได้พัฒนาฝาแฝดดิจิทัล (Digital Twin) แบบเรียลไทม์เพื่อใช้ในกาารจำลองระบบการผลิตรถยนต์ในการปรับปรุงการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในระหว่างการผลิตได้ช่วยให้องค์กรสามารถจำลองผลกระทบของสถานการณ์การผลิตเพื่อหาแนวทางแก้ไข หรือวางแผนการดำเนินการได้ง่ายขึ้น
การผลิตแบบ Decentralized Manufacturing
หลังเกิดสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 อุตสาหกรรมการผลิตกำลังประเมินแบบจำลองทางเลือกเพื่อลดการหยุดชะงักของธุรกิจให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งแนวทางที่มีแนวโน้มในอุตสาหกรรมอีก 5 ปีข้างหน้าจะปรับเป็นการผลิตแบบกระจายศูนย์ ผู้ค้าปลีกชั้นนำรายหนึ่งได้พัฒนาแนวคิดการผลิตใหม่โดยอิงจากโรงงานขนาดเล็กที่สามารถเคลื่อนย้ายและจัดรูปแบบใหม่การผลิตได้อย่างง่ายดายที่มีทุกที่ทั่วโลก ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดในท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากำลังวางแผนที่จะสร้างชุดโรงงานขนาดเล็กที่สามารถตอบสนองการผลิตรถยนต์ได้ตรงความต้องการของตลาดมากที่สุด
คาดการณ์ 5 Trend เทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิตในปี 2025
1. โลกแห่งปัญหาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ขั้นสูง (Advanced Analytics)
เทคโนโลยี AI ในอุตสาหกรรมการผลิตจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมคุณภาพ ด้วยการที่ AI สามารถตรวจสอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ในการผลิตชิ้นส่วนทั้งหมด เพื่อให้ตรงตามคุณภาพที่ถูกกำหนดไว้ และการใช้เทคโนโลยี AI จะช่วยให้การตรวจสอบชิ้นส่วนที่ผลิตทั้งหมด เพื่อลดโอกาสการเกิดข้อบกพร่อง นอกจากนี้การนำ AI IIoT Edge Computing หรือ Cloud Computing มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้เป็นอย่างมาก ซึ่งการใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของตลาดโดยใช้แบบจำลองการคาดการณ์ จึงกลายเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตต้องปรับตัวในอนาคต
2. เทคโนโลยีการเชื่อมต่อทรงประสิทธิภาพ 5G
การเชื่อมต่อ 5G หรือระบบ IoT จะครอบคลุมมากขึ้นในทุกอุตสาหกรรม โดย PwC ได้ประเมินผลของการใช้เทคโนโลยี 5G ต่อเศรษฐกิจโลก พบว่า การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี 5G ของภาคธุรกิจทั่วโลกที่มีแนวโน้มแพร่หลายมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว อีกทั้งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจทั่วโลก โดยการใช้งาน 5G ในภาคการผลิต จะสร้างมูลค่าเพิ่มกับระบบเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2030 ได้สูงถึง 1.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และลดต้นทุนจากสินค้าที่มีความบกพร่องได้ถึง 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
3. เทคโนโลยีหุ่นยนต์ขั้นสูง (Advanced robotics)
การใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิต มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยจุดประสงค์ของผู้ผลิตคือการเพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำและความรวดเร็วในการผลิต จึงมีการพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้มากยิ่งขึ้น โดยลดการใช้แรงงานมนุษย์ให้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติการ (Cobot) หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) และยานยนต์นำทางอัตโนมัติ (AGV) ซึ่งหุ่นยนต์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำงานร่วมกับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนกระตุ้นให้ผู้ผลิตได้สร้างสรรค์การทำงานเพื่อการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองว่าในปี 2565 เทคโนโลยีของหหุ่นยนต์เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมในการทำงานแบบ Remote Working
4. เทคโนโลยีระบุตัวตน (Biometric technology)
เทคโนโลยีการระบุตัวตน ใช้เทคนิคการแปลค่าอัตลักษณ์เฉพาะบุคคล (Personal identity) โดยนำลักษณะทางชีวภาพมาวิเคราะห์และเปรียบเทียบความแตกต่าง ทำให้เกิดความปลอดภัย และสะดวกรวดเร็วมากขึ้นเพื่อสร้างระบบความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งาน ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และสะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม ล่าสุดมีรายงานเผยออกมาว่าบริษัทกว่า 72 % กำลังวางแผนที่จะยกเลิกรหัสผ่านแบบเดิมภายในปี 2025 ซึ่งจะก่อให้เกิดการใช้รูปแบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่อย่างใบหน้า เสียง ตา มือ และลายเซ็น
5. การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation)
การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ในปัจจุบันเป็นการเปลี่ยนระบบการใช้งานแบบเดิมให้มีความทันสมัยมากขึ้น ไปจนถึงการดัดแปลงอุปกรณ์รุ่นเก่ารวมไปถึงการนำระบบเซนเซอร์เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป
เทคโนโลยีได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง การประยุกต์ใช้ระบบไซเบอร์-กายภาพ (Cyber-Physical Systems : CPS) และ IIoT สามารถสร้างข้อได้เปรียบของธุรกิจได้ จึงเป็นความท้าทายที่หลายองค์กรจะก้าวให้ทัน จริงๆแล้ว ไม่ใช่ทุกเทคโนโลยีที่สามารถส่งผลเปลี่ยนแปลงในสังคม และแวดวงธุรกิจได้ แต่อย่างที่ทุกคนได้อ่านมา บางสิ่งมันค่อนข้างจะอิมแพค สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้แก่องค์กรสูงสุด ซึ่งในอนาคตการผลิต ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลจะนำไปสู่การเลือกโรงงานอัจฉริยะ เครื่องจักรและอุปกรณ์สามารถปรับปรุงกระบวนการผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยตนเองและระบบอัตโนมัติ ประโยชน์ของโรงงานอัจฉริยะจะขยายขอบเขตนอกเหนือจากการผลิตไปยังฟังก์ชันอื่นๆ เช่น ลอจิสติกส์ซัพพลายเชน การวางแผน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์
การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของการผลิต ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่กล่าวมาในบทความนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวสู่เทคโนโลยีที่น่าจับตามองอย่าง “Metaverse” อุตสาหกรรมการผลิต และองค์กรต่าง ๆ ควรติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเหล่านี้และพิจารณากรณีการใช้งานที่เหมาะสมเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่ดีที่สุด จากการเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่ยุค 5.0 อันใกล้นี้
ขอบคุณข้อมูล : SIMTEC INSTITUTE
อ่านบทความเพิ่มเติม : RANKING