ในโลกของสตาร์ทอัพ (Startup) คำว่า Unicorn (ยูนิคอร์น) ไม่ได้หมายถึงสัตว์ในเทพนิยายอีกต่อไป แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ บริษัทที่มีมูลค่าเกินพันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ สามหมื่นล้านบาท ได้รับการขนานนามนี้ เพราะหายากราวกับสัตว์ในตำนาน แต่ในประเทศไทย เราได้เห็นการเกิดขึ้นของยูนิคอร์นหลายตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มาทำความรู้จักกับ 5 ยูนิคอร์นแห่งเมืองไทยกัน
เปิดรายชื่อบริษัท Startup บทเรียนและแรงบันดาลใจจาก 5 Unicorn แห่งเมืองไทย
1. Flash Express: จากเด็กดอยสู่เจ้าพ่อโลจิสติกส์
เรื่องราวของ Flash Express เริ่มต้นจากความฝันของหนุ่มชาวเหนือ คุณคมสันต์ ลี ที่มองเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท ที่มีความตั้งใจจะสร้างบริการขนส่งที่ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ เริ่มต้นจากการคิดค่าบริการเพียง 19 บาท ซึ่งต่ำกว่าใครในตลาดขณะนั้น
แต่ความสำเร็จของ Flash ไม่ได้มาจากแค่ราคาถูก คุณคมสันต์ยึดหลัก “ผิดให้มาก-แก้ไขให้เร็ว” เขาเชื่อว่าในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงเร็ว การกลัวความผิดพลาดจะทำให้ตกขบวน ไม่ทันคนอื่น ทีมงานของเขาจึงกล้าทดลองสิ่งใหม่ๆ และพร้อมปรับตัวตลอดเวลา
นอกจากนี้ การสร้างทีมที่มีความฝันร่วมกันก็เป็นกุญแจสำคัญ คุณคมสันต์เน้นการเลือกคนที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน มากกว่าดูแค่ความเก่ง เพราะเชื่อว่าความอดทนและความมุ่งมั่นจะช่วยฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงเริ่มต้นได้
ปัจจุบัน Flash ไม่ใช่แค่บริษัทขนส่งอีกต่อไป แต่เป็นผู้ให้บริการ E-Commerce ครบวงจร ตั้งแต่คลังสินค้าไปจนถึงบริการทางการเงิน ด้วยพนักงานกว่า 50,000 คน และการขยายไปต่างประเทศ Flash กลายเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของไทยในเวลาเพียง 4 ปี
แม้จะประสบความสำเร็จ แต่คุณคมสันต์ยังยึดมั่นในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เขามองว่าการเป็นยูนิคอร์นไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความท้าทายใหม่ๆ
2. Ascend Money: การปฏิวัติวงการ Fintech
ก่อตั้งในปี 2013 โดยกลุ่ม CP และ Ant Financial พวกเขาสร้าง TrueMoney Wallet แอพที่ทำให้การโอนเงิน จ่ายบิล หรือซื้อของออนไลน์ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน
ความสำเร็จของ Ascend Money ไม่ได้วัดกันที่กำไร แต่วัดที่จำนวนชีวิตที่พวกเขาเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันมีคนกว่า 50 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม TrueMoney Wallet
นอกจากการให้บริการทางการเงินพื้นฐาน Ascend Money ยังสร้างเครือข่ายตัวแทนรับ-จ่ายเงินกว่า 88,000 แห่งทั่วภูมิภาค ทำให้แม้แต่คนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถเข้าถึงบริการได้
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Ascend Money ทำให้บริษัทได้รับการประเมินมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 ก้าวขึ้นสู่การเป็นยูนิคอร์นอีกตัวของประเทศไทย
Ascend Money ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI และ Big Data ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อนำเสนอบริการที่เหมาะสม หรือการพัฒนาระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้
3. Bitkub: ผู้บุกเบิกคริปโตเคอร์เรนซีแห่งประเทศไทย
Bitkub ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดย คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ท๊อป” ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะสร้างแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และใช้งานง่ายสำหรับคนไทย ในช่วงเวลาที่คริปโตเคอร์เรนซียังเป็นเรื่องใหม่และไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในประเทศไทย
จุดเริ่มต้นของ Bitkub บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งในแง่ของการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซีให้กับผู้คน หน่วยงานรัฐ และนักลงทุน รวมถึงการพัฒนาระบบที่มีความปลอดภัยสูงและรองรับปริมาณธุรกรรมจำนวนมหาศาล
แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นของทีมงาน Bitkub สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ และเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากแพลตฟอร์มเล็กๆ สู่การเป็นผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งกว่า 90% ในประเทศไทยภายในเวลาเพียง 3 ปี
Bitkub ผลักดันอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีของไทย บริษัทได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานเพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบที่เหมาะสม จนได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นรายแรกของประเทศ
นอกจากการให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซี Bitkub ยังมุ่งมั่นในการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซีแก่สาธารณชน ผ่านการจัดทำคอนเทนต์ การจัดสัมมนา และการพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์
Bitkub ยังขยายบริการไปสู่การเป็น Crypto Bank การพัฒนาเทคโนโลยี NFT และการสร้างระบบนิเวศทางการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกการเงินในอนาคต
เรื่องราวของ Bitkub เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ว่า การกล้าที่จะเป็นผู้บุกเบิกในเทคโนโลยีใหม่ แม้จะเต็มไปด้วยความท้าทายและความไม่แน่นอน แต่ก็สามารถนำไปสู่การสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมีผลกระทบในวงกว้างได้
4. Wongnai: แพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหารและไลฟ์สไตล์
Wongnai เริ่มต้นในปี 2010 จากปัญหาง่ายๆ ที่ใครๆ ก็เคยเจอ อยากกินอะไรดีๆ แต่ไม่รู้จะหาร้านยังไง คุณยอด ชินสุภัคกุล จึงสร้างแพลตฟอร์มที่รวบรวมรีวิวร้านอาหารจากคนจริงๆ
Wongnai ต้องสร้างฐานผู้ใช้และกระตุ้นให้ผู้คนแบ่งปันประสบการณ์การรับประทานอาหาร รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นในความน่าเชื่อถือของรีวิวบนแพลตฟอร์ม
จากความมุ่งมั่นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Wongnai สามารถเติบโตจากแพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหารธรรมดา สู่การเป็นแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ที่ครอบคลุมทั้งร้านอาหาร ความงาม สุขภาพ และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังได้ขยายบริการไปสู่การจองร้านอาหาร การสั่งอาหารเดลิเวอรี่ และการให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับร้านอาหาร
แต่ยังรวมถึงบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมร้านอาหารและบริการของไทย Wongnai ช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการปรับปรุงคุณภาพอาหารและบริการ และช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกร้านอาหารได้อย่างมีข้อมูล
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Wongnai ทำให้บริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุน และได้รับเงินลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Line ในปี 2018 ซึ่งช่วยการขยายบริการและพัฒนาเทคโนโลยี
Wongnai ไม่เพียงแต่สร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย สร้างวัฒนธรรมการแบ่งปันประสบการณ์ และยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมอาหารและบริการในประเทศ
5. Ookbee: จากแอพอ่านหนังสือสู่แพลตฟอร์มคอนเทนต์ยักษ์ใหญ่
บริษัทที่กำลังนำพาวงการสื่อและคอนเทนต์ดิจิทัลของไทยสู่มิติใหม่ นั่นคือ Ookbee ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มคอนเทนต์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Ookbee ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดยคุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะปฏิวัติวงการหนังสือและสิ่งพิมพ์ของไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล ในช่วงเวลาที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกำลังเริ่มได้รับความนิยม Ookbee เริ่มต้นด้วยการเป็นแพลตฟอร์ม e-book ที่รวบรวมหนังสือและนิตยสารดิจิทัลไว้ในที่เดียว
บริษัทต้องพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้อ่านจากการอ่านหนังสือเล่มมาเป็นการอ่านบนหน้าจอ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสำนักพิมพ์และนักเขียนในการนำผลงานมาเผยแพร่บนแพลตฟอร์มดิจิทัล
Ookbee เป็นบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวงการสื่อและคอนเทนต์ของไทย บริษัทได้สร้างโอกาสให้นักเขียนหน้าใหม่สามารถเผยแพร่ผลงานได้ง่ายขึ้น สร้างรายได้ให้กับนักเขียนและครีเอเตอร์กว่าหมื่นคน และช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงคอนเทนต์คุณภาพในราคาที่จับต้องได้
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Ookbee ทำให้บริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุนระดับโลก และได้รับเงินลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent ในปี 2017 แม้จะยังไม่ได้ประกาศตัวเป็นยูนิคอร์นอย่างเป็นทางการ แต่ Ookbee ก็ถือเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่น่าจับตามองที่สุดในภูมิภาค
Ookbee มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้อ่านและแนะนำคอนเทนต์ที่เหมาะสม รวมถึงการขยายบริการไปสู่รูปแบบใหม่ๆ เช่น คอนเทนต์เสียง (Audiobook) และวิดีโอ
เรื่องราวของ Ookbee เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ว่า การมองเห็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดั้งเดิมด้วยเทคโนโลยี
สรุป
ความสำเร็จของ 5 บริษัท Startup ที่เป็นยูนิคอร์นไทยสะท้อนบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ 5 ได้แก่:
- การแก้ปัญหาต้องเริ่มจากความเข้าใจความต้องการที่แท้จริง เช่น Flash Express ที่เข้าใจปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการขนส่ง
- นวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จต้องตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ เห็นได้จาก TrueMoney Wallet ที่ทำให้บริการการเงินเข้าถึงง่าย
- การกล้าบุกเบิกตลาดใหม่และสร้างมาตรฐานอย่าง Bitkub สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงระดับอุตสาหกรรมได้
- ความสำเร็จไม่ได้มาจากไอเดียเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการพัฒนาและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง
- การสร้างทีมที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันสำคัญกว่าการมองแค่ความสามารถ
ขอบคุณข้อมูล : YOUNG BUSINESS GUIDE
อ่านบทความและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมจากเรา : RANKING5