

ใครที่เป็นคอบอล แล้วได้ดูบอลโลกจบไปแล้วแต่อารมณ์คนที่เป็นคอบอลยังไม่จบใช่ไหม เลยอยากจะพาไปดู 5 สนามฟุตบอลที่สวยที่สุดในโลกกัน Best of Football Stadiums มาสัมผัสความสวยงามของสนามกันเลยครับ
สโมสรฟุตบอลเล็ก ๆ ในฮังการี ที่มีชื่อว่า Puskás Akadémia FC จุคนได้ประมาณ 5,000 คน จริงๆแล้วไม่ใหญ่มากครับ แต่ที่นี่มีความพิเศษ คือ เป็นสนามฟุตบอลที่มีเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิค สังเกตจากส่วนโค้งของหลังคาที่ทำจากไม้ ออกแบบโดยอิมเร มาโคเว็ตซ์ ตำนานสถาปนิกชาวฮังกาเรียน ซึ่งจะทำให้คนดูมีความรู้สึกเหมือนอยู่ในโบสถ์วันอาทิตย์มากกว่าสนามฟุตบอล! จึงรับรองได้ว่าไม่มีสนามไหนเหมือนกับที่นี่อีกแล้ว และใช้เวลาสร้างนานถึง 2 ปีเชียวน้า ใครที่ไปฮังการี แวะถ่ายรูปก็เป็นความคิดที่ไม่เลว
แฟนฟุตบอลเยอรมันคงรู้จักสนามนี้กันดี เนื่องจากเป็นบ้านของทีมดัง FC Bayern Munich จุแฟนบอลได้มากถึง 75,000 คน ซึ่งสัญลักษณ์ที่เป็นที่จดจำไปทั่วก็คือ พลาสติก ETFE ส่วนผสมของพลาสติก-ฟอยล์ชนิดพิเศษ อัดก๊าซแห้งเรืองแสงไว้ข้างใน มองแต่ไกลเหมือนยานบินอวกาศสีขาว ถือว่ามีความทันสมัยมากๆครับ และเป็นสนามกีฬาแห่งแรกที่สามารถเปลี่ยนสีอาคารภายนอกได้แบบเต็มรูปแบบ โดยปกติจะเปลี่ยน 3 สี ตามสีของทีมที่ใช้สนามนี้เป็นประจำ เพื่อบอกว่าแต่ละค่ำคืนนั้นทีมใดลงแข่งขัน ได้แก่ สีขาว-ทีมชาติเยอรมัน สีแดง-ทีมบาเยิร์น มิวนิก และสีน้ำเงิน-ทีม 1860 มิวนิก
ใครจะรู้ว่าแถบเอเชียใกล้ๆบ้านเรา อย่างไต้หวัน ที่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่ไป มักไปตระเวนกินครับ ^^ จะมีหนึ่งสนามบอลที่ติดอันดับว่าสวยที่สุดในโลกด้วย สนามกีฬาแห่งชาติเกาสง เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันเวิลด์เกมส์ 2009 มีความจุ 55,000 คน ผู้ออกแบบสนามคือ โทะโย อิโต สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่นครับ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบแนวล้ำสมัย รูปทรงของสนามจึงถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายมังกรที่กำลังนอนขดตัว และที่หลังคาเขาได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในสนาม นับเป็นสนามกีฬาแห่งแรกของโลกที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ทันสมัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เจ๋งสุดๆไปเลยล่ะครับ
เป็นสนามฟุตบอลในเมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล และเป็นสนามกีฬาแห่งชาติของบราซิล สนามมารากานังเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอล 4 สโมสร ได้แก่ ฟลาเมงกู (Flamengo), บอตาโฟกู (Botafogo), ฟลูมีเนงซี (Fluminense) และวัสกู ดา กามา (Vasco da Gama) ครับ
มารากานังเป็นสนามหนึ่งในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 และในรอบรอบชิงชนะเลิศ และเป็นสนามในการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 และเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดและปิดโอลิมปิกในครั้งเดียวกัน
อดีตสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ โดยชื่อของสนามนั้นมาจากชื่อย่านมารากานาที่อยู่โดยรอบ เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 1950 เพื่อใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1950 ซึ่งนัดเปิดสนามระหว่างเจ้าถิ่นแซมบ้ากับทีมจังโก้ เม็กซิโกนั้น มีผู้เข้าชมมากถึง 199,854 คน นับว่ามากที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการบันทึกมา! โดยเดิมทีสนามแห่งนี้มีความจุมากถึง 200,000 คน แต่ได้ลดจำนวนลงเนื่องจากเหตุการณ์อัฒจันทร์ถล่มเมื่อปี 1992 ปัจจุบันมีความจุเหลือเพียง 74,000 ที่นั่งเท่านั้น
สนามหลักของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพที่ผ่านมานั่นเอง ใครมีโอกาสได้ไป มีช้างละอิจฉาจริงๆ โดยใช้แข่งขันทั้งในรอบแบ่งกลุ่ม รอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ มีความจุ 80,000 ที่นั่ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมอสโก เป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย สนามกีฬานี้เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์โอลิมปิกลุจนีกี ก่อนเรียกว่าสนามกลางเลนิน สนามแห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1980 อีกทั้งเคยใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรปรอบชิงชนะเลิศมาแล้วถึง 2 ครั้ง คือ ยูฟ่าคัพ ปี 1999 ระหว่างปาร์มา-มาร์แซย์ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ปี 2008 ระหว่างเชลซี-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ปัจจุบันยังเป็นสนามฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลชื่อดังในรัสเซีย คือ สโมสรฟุตบอลซีเอสเคเอมอสโก และสโมสรฟุตบอลสปาร์ตัคมอสโก โดยสนามแห่งนี้มีระดับ 4 ดาว จากการรับรองมาตรฐานจากยูฟ่า
ขอบคุณข้อมูล : Changtrixget
อ่านบทความเพิ่มเติม : RANKING5