5 อันดับประเทศสะอาดที่สุดโลก Clean country ประจำปี 2025

ไอซ์แลนด์ครองแชมป์ประเทศที่สะอาดที่สุดในโลกปี 2025 Clean country พาไปดู 5 ประเทศ ที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่สะอาดที่สุดในโลก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หลายคนอาจจะคิดว่าประเทศที่สะอาดคือประเทศที่ไม่มีขยะเกลื่อนกลาด แต่จริงๆ แล้วมันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น ล่าสุด มีผลการจัดอันดับประเทศที่สะอาดที่สุดในโลก Clean country ปี 2025 ออกมาแล้ว ซึ่งไม่ได้ดูแค่เรื่องขยะอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเรื่องคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมโดยรวมด้วย
จัดอันดับ 5 ประเทศสะอาดที่สุดโลก Clean country 2025 ไอซ์แลนด์ครองแชมป์
อันดับ 1 ไอซ์แลนด์

อากาศ: 4
น้ำ: 3
ขยะ: 5
สุขอนามัย: 2
คะแนนรวมความสะอาด: 3.6
ไอซ์แลนด์ตั้งอยู่บนสันกลางแอตแลนติก จึงใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งให้ความอบอุ่นบ้านเรือนและละลายหิมะบนถนน ลมทะเลแอตแลนติกช่วยให้อากาศสะอาด น้ำประปามาจากแหล่งภูเขาไฟธรรมชาติที่สะอาดและไม่ต้องผ่านการบำบัดด้วยสารเคมี
ระบบจัดการขยะของประเทศมีคุณภาพสูง ขยะส่วนใหญ่ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน ขณะที่จุดรีไซเคิลรองรับตั้งแต่ตาข่ายประมงถึงยางรถยนต์ โดยใช้พลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้ ระบบท่อระบายน้ำครอบคลุมทั่วชนบท ช่วยรักษาลำธารให้ใสสะอาด เหมาะสำหรับปลาแซลมอนตามธรรมชาติ
อันดับ 2 สวิตเซอร์แลนด์
อากาศ: 5
น้ำ: 3
ขยะ: 5
สุขอนามัย: 2
คะแนนรวมความสะอาด: 3.9
หุบเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์เลือกใช้รถไฟไฟฟ้าแทนรถบรรทุก เพื่อขนส่งสินค้าสู่ใจกลางผ่านอุโมงค์ฐานที่สร้างไว้ ค่าไฟฟ้าส่วนหนึ่งมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ในขณะเดียวกัน ทะเลสาบของประเทศกลายเป็นแหล่งน้ำดื่มใสสะอาด ผ่านการกรองด้วยรังสียูวี กระเป๋าขยะ “จ่ายเท่าทิ้งเท่านั้น” (pay‑as‑you‑throw) ทำให้ประชาชนแยกขยะอย่างเป็นระบบ รีไซเคิลแก้ว กระดาษ และโลหะ
โรงเผาขยะดักจับก๊าซเสียแล้วส่งไอน้ำต่อไปยังโรงงานช็อกโกแลต ระบบบำบัดน้ำเสียมีขั้นตอนเพิ่มเพื่อกำจัดสารยาปฏิชีวนะก่อนปล่อยทิ้ง และกระท่อมบนภูเขาทุกหลังต้องนำขยะทั้งหมดกลับลงมาด้วย ช่วยปกป้องต้นน้ำและหิมะบนยอด เขายงามที่แม้แต่จุดพักริมทางหลวงยังสะอาด ไม่มีเศษขยะ เผยให้เห็นความภาคภูมิใจของคนในชาติ
อันดับ 3 นิวซีแลนด์
อากาศ: 5
น้ำ: 4
ขยะ: 6
สุขอนามัย: 3
คะแนนรวมความสะอาด: 4.6
นิวซีแลนด์เป็นดินแดนที่โอบล้อมด้วยลมแปซิฟิกบริสุทธิ์ ที่พัดพาควันและมลพิษทั้งหมดออกไปให้ไกลจากชายฝั่ง ที่นี่พลังงานหลักมาจากเขื่อนน้ำและพลังงานความร้อนใต้พิภพ ทำให้ปล่องไฟแทบไม่ต้องสูบบุหรี่เลย ฝูงวัวนมเล็มหญ้าอย่างมีมาตรฐานจำกัดสารอาหาร
เพื่อรักษาคุณภาพน้ำในแม่น้ำที่นักตกปลาชื่นชอบ เทศบาลจัดถังขยะแยกประเภทอย่างเป็นระบบ ทั้งขวดแก้ว กระดาษ และเศษอาหาร เพื่อโลกที่สะอาด National Parks เข้มงวดห้ามใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทำให้เส้นทางเดินป่าเป็นที่สงบและสะอาดสำหรับนักเดินทาง
ระบบบำบัดน้ำเสียถูกตรวจสอบและปิดผนึกอย่างดี เพื่อปกป้องน้ำบาดาลในชุมชนชนบท ผลลัพธ์ที่ได้คือการท่องเที่ยวที่คุณสามารถสัมผัสได้ด้วยปอดที่เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ และดื่มน้ำใสสะอาดจากธรรมชาติ
อันดับ 4 ฟินแลนด์
อากาศ: 6
น้ำ: 4
ขยะ: 6
สุขอนามัย: 3
คะแนนรวมความสะอาด: 4.9
ป่าบอเรียลของฟินแลนด์ปกคลุมพื้นที่ถึงสามในสี่ของประเทศ ช่วยดูดซับฝุ่นละอองละเอียดอย่างมีประสิทธิภาพ โรงไฟฟ้ารวมความร้อนและพลังงานเผาชีวมวลด้วยระบบกรองที่เข้มงวด น้ำในทะเลสาบผ่านกระบวนการกรองด้วยทรายง่ายๆ จนได้คุณภาพน้ำดื่มตรงถึงก๊อกบ้าน
ชุมชนท้องถิ่นรับแบตเตอรี่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ และยางรถยนต์อย่างฟรีๆ เพื่อให้เกิดการจัดการขยะอย่างยั่งยืน บ้านพักตากอากาศต้องติดตั้งห้องน้ำแบบแห้งปิดมิดชิด หรือเชื่อมต่อกับระบบบำบัดน้ำเสียเต็มรูปแบบ เพื่อลดสารอาหารรั่วไหลลงสู่ธรรมชาติ กฎสำหรับผู้ผลิตยังบังคับให้บริษัทต่างๆ ต้องร่วมรับผิดชอบในจัดเก็บบรรจุภัณฑ์อีกด้วย เด็กๆ เรียนรู้การทำปุ๋ยหมักตั้งแต่ประถม และร่วมกันจับผิดขยะตามสนามเด็กเล่น สร้างสังคมสะอาดน่าอยู่ตั้งแต่ต้น
อันดับ 5 เดนมาร์ก
อากาศ: 6
น้ำ: 4
ขยะ: 6
สุขอนามัย: 3
คะแนนรวมความสะอาด: 4.9
กังหันลมตั้งอยู่รอบทะเลเหนือ ช่วยผลิตไฟฟ้ามากกว่าครึ่งหนึ่งของเดนมาร์ก ในโคเปนเฮเกน น้ำเสียทุกหยดถูกทำความสะอาดอย่างดี และกากตะกอนถูกแปลงเป็นก๊าซชีวภาพ ใช้ขับรถบัสในเมือง ขวดน้ำและบรรจุภัณฑ์กว่า 92% ถูกส่งกลับไปที่ร้านค้าเพื่อรีไซเคิล
การแยกขยะอาหารเป็นเรื่องที่ต้องทำ เพื่อเอาขยะมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน น้ำประปาผ่านการกรองด้วยทรายลึก ทำให้คนไม่ต้องซื้อขวดน้ำดื่มบ่อยๆ ในใจกลางเมืองมีทางจักรยานมากกว่าทางรถยนต์ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ขยะส่วนใหญ่ถูกนำไปเผาเป็นพลังงาน ทำให้แทบไม่มีขยะถูกฝังในดินเลย
คิดคะแนนจาก 4 ปัจจัยหลัก
Ultimate Kilimanjaro ได้ออกแบบคะแนนรวม “Clean Score” โดยประเมินจากข้อมูลปี 2024 ในสี่ด้านหลัก ได้แก่ คุณภาพอากาศ น้ำ สุขาภิบาล (รวมสุขอนามัย) และการจัดการขยะ โดยมีรายละเอียดดังนี้
คุณภาพอากาศ ใช้ข้อมูลจาก รายงานคุณภาพอากาศโลก (World Air Quality Report) ประจำปี 2024 ของ IQAir ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากสถานีตรวจคุณภาพอากาศกว่า 40,000 แห่ง ใน 8,954 สถานที่ใน 138 ประเทศทั่วโล
น้ำ สุขาภิบาล และสุขอนามัย อ้างอิงจากฐานข้อมูลของ โครงการติดตามร่วมของ WHO/UNICEF (Joint Monitoring Programme) ซึ่งรายงานการเข้าถึงน้ำสะอาด สุขาภิบาล และการดูแลสุขอนามัยในปี 2024
การจัดการขยะ ใช้ตัวชี้วัดจาก ดัชนีประสิทธิภาพสิ่งแวดล้อม (Environmental Performance Index – EPI) ของเยลล์ ในปี 2024 ที่ครอบคลุมการกำจัดขยะอย่างควบคุม (controlled disposal) และอัตราการนำกลับมาใช้ (recovery)
วิธีการประมวลผล
- ปรับมาตรฐานข้อมูล (Normalization) – แปลงค่าของแต่ละประเทศในแต่ละตัวชี้วัดให้อยู่ในช่วง 0–100
- การให้ความสำคัญของแต่ละด้าน (Weighting) – กำหนดน้ำหนัก: คุณภาพอากาศ 30%, น้ำ 25%, ขยะ 25%, สุขอนามัย 20%
- คำนวณคะแนนรวม (Composite Score) – ยิ่งได้คะแนนรวมต่ำ ยิ่งแสดงถึงสภาพแวดล้อมที่สะอาดกว่า
- ประเทศที่มี “Clean Score” ต่ำสุด คือกลุ่มที่อยู่ในตำแหน่งประเทศที่สะอาดที่สุดในโลก