
โลกของ Digital Marketing กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ปี 2025 กำลังจะเป็นอีกก้าวสำคัญที่นักการตลาดต้องให้ความสนใจ ทุกเทรนด์ที่เราเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ล้วนขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและข้อมูลที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น และวันนี้เราได้รวบรวม 6 เทรนด์ Digital Marketing ปี 2025 ที่น่าจับตามอง โดย Forbes ที่จะกำหนดอนาคตของการตลาดดิจิทัล มาดูกันว่าธุรกิจจะปรับตัวอย่างไรให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้
ส่อง 5 เทรนด์ Digital Marketing อัพเดทใหม่ ปี 2025
เทรนด์ใหม่ๆ กำลังเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของ AI, Big Data, Blockchain, Metaverse และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น นักการตลาดต้องก้าวให้ทันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดึงดูดและตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Forbes ได้คัดสรร 5 เทรนด์ Digital Marketing ที่จะเป็นแรงผลักดันให้กับวงการตลาดดิจิทัลในปี 2025 มาดูกันว่าเทรนด์เหล่านี้คืออะไร และคุณจะนำไปปรับใช้ได้อย่างไร
1. AI และ Machine Learning ในการตลาด

ในปี 2025 AI และ Machine Learning ถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ Digital Marketing ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และข้อมูลที่มีความซับซ้อน โดย AI ช่วยให้ Digital Marketing Agency สามารถเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้แบบเจาะลึก การนำ AI มาใช้ในด้านการตลาดจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจและสามารถสร้างแคมเปญที่ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ AI ยังช่วยในการสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า โดยการปรับเนื้อหาและข้อเสนอให้ตรงกับความสนใจและพฤติกรรมของแต่ละบุคคล จึงสรุปได้ว่าการใช้ AI ในการตลาดไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันในยุคดิจิทัล
2. การตลาดผ่านเสียง (Voice Marketing)
ในปี 2025 การค้นหาด้วยเสียง (Voice Search) และการค้าผ่านเสียง (Voice Commerce) ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในกลยุทธ์ Digital Marketing ด้วยการเติบโตของอุปกรณ์ผู้ช่วยเสียง เช่น Amazon Alexa, Google Assistant และ Apple Siri ผู้บริโภคจึงหันมาใช้คำสั่งเสียงในการค้นหาข้อมูลและทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ Digital Marketing Agency ต้องปรับกลยุทธ์ SEO เพื่อรองรับการค้นหาด้วยเสียง ซึ่งมักมีลักษณะเป็นประโยคถามตอบและใช้ภาษาที่ดูเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ Voice Commerce ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าและบริการผ่านคำสั่งเสียงได้อย่างสะดวกสบาย การปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์นี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
3. Metaverse และโอกาสใหม่ๆ
Metaverse เป็นพื้นที่ดิจิทัลที่เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับการตลาด โดย Metaverse คือโลกเสมือนจริงที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบและมีประสบการณ์ร่วมกันผ่านอวตารและสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ซึ่งสำหรับนักการตลาดแล้ว Metaverse จะช่วยนำเสนอช่องทางใหม่ในการสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น การจัดอีเวนต์เสมือนจริง การสร้างร้านค้าเสมือน หรือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ 3 มิติ
การลงทุนใน Metaverse ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับลูกค้าได้ อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ Metaverse ต้องมีการวางแผนและทำความเข้าใจในเทคโนโลยีนี้อย่างถ่องแท้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์มากที่สุด
4. การตลาดแบบยั่งยืน (Sustainable Marketing)
โลกหมุนเข้าสู่ยุคที่ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นมาตรฐานใหม่ของการตลาดที่จำเป็นมาก แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมกำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจโลกมากขึ้น ตั้งแต่การลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ ไปจนถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่สินค้าเท่านั้นที่ต้อง “Go Green” แต่แนวทาง Marketing ก็ต้องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่แท้จริง แคมเปญที่ขับเคลื่อนด้วยความโปร่งใสและคุณค่าทางจริยธรรมจะช่วยสร้าง Brand Loyalty ที่แข็งแกร่ง และช่วยให้แบรนด์ยืนหยัดได้ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยตัวเลือกมากมาย
5. วิดีโอสั้นยังครองกระแส
วิดีโอสั้น (Short-Form Video) ยังคงเป็นราชาแห่งคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Instagram Reels หรือ YouTube Shorts แพลตฟอร์มเหล่านี้ยังคงดึงดูดผู้ใช้มหาศาล เพราะพฤติกรรมของคนในยุคดิจิทัลเปลี่ยนไป ทุกคนต้องการคอนเทนต์ที่เร็ว กระชับ และน่าติดตาม
แบรนด์ที่อยากครองใจผู้บริโภคต้องรู้จักใช้วิดีโอให้เป็น ลองใช้ Live Streaming เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับผู้ชม เช่น การเปิดตัวสินค้า หรือ Q&A สด ที่ช่วยเพิ่ม Engagement ได้แบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ การใช้ฟีเจอร์โต้ตอบ เช่น โพล คำถาม-คำตอบ หรือ Challenge ต่างๆ บนแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น จะช่วยให้คอนเทนต์ไม่ใช่แค่ถูกรับชม แต่ยังถูกมีส่วนร่วมจริงๆ
ที่สำคัญอย่าลืมที่จะวิเคราะห์ข้อมูลอยู่เสมอ ดูว่าวิดีโอแบบไหนเวิร์ก หรือฟีเจอร์อะไรที่ดึงดูดคนดูได้มากที่สุด แล้วนำมาปรับใช้ต่อไป เช่น เครื่องมืออย่าง InShot และ Canva สามารถช่วยให้การสร้างวิดีโอคุณภาพเป็นเรื่องง่ายขึ้น พร้อมพาแบรนด์ของคุณไปไกลกว่าเดิม
ขอบคุณข้อมูล : digimusketeers
อ่านบทความเพิ่มเติม : RANKING5