 
เพราะโลกของเราเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่ทุกวัน แต่ทุกเวลา ระหว่างนาทีนี้กับนาทีหน้าก็อาจจะมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นแล้วก็ได้
Trend ในโลกของกีฬาเองก็เหมือนกัน ตลอดปี 2024 มีความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าหลายอย่างเกิดขึ้น แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเป็นเรื่องเก่าเสมอ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้าต่างหากที่น่าสนใจและควรจะรู้ไว้ Trend ใหม่ของโลกกีฬาในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2025 จะเป็นอย่างไรกันบ้างนะ?
5 อันดับ Trend สุดล้ำในโลกกีฬาที่น่าจับตามอง 2025
 
1. โค้ช AI (เก่งกว่าโค้ชคีย์บอร์ดแน่นอน)
กีฬาเป็นสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยความมานะพยายามของผู้เล่น แต่สิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ ความรู้จากผู้สอนว่าเก่งจริงไหม รู้จริงไหม และสอนให้เข้าใจได้ไหม
ที่ผ่านมามันเป็นเรื่องของโชคและดวงด้วย ถ้าเจอผู้สอนดีก็ดีไป จะเป็นนักกีฬาอาชีพหรือเป็นนักกีฬาสมัครเล่นที่เน้นสุขภาพ เจอคนสอนดีก็เหมือนถูกหวย ได้พัฒนาร่างกายและเทคนิคการเล่นของตัวเอง
แต่ปัญหาคือ นอกจากจะไม่รู้ว่าคนไหนสอนดีแล้ว ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสเช่นนั้นด้วย
เรื่องที่เป็นปัญหานี้จะหมดไปในอนาคตอันใกล้ เพราะในวงการกีฬาเริ่มมีการนำเทคโนโลยี ‘AI’ เข้ามาช่วยในการฝึกสอน ทำให้นักกีฬาจะอาชีพหรือสมัครเล่นก็ตาม สามารถเรียนรู้การเล่นและพัฒนาขีดความสามารถได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญคือทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่มีขีดจำกัดอีกต่อไป
ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน BeONE Sports ที่จะให้ AI ช่วยดูท่าทางของคุณในระหว่างการซ้อมว่าทำถูกต้องไหม ผ่านการเปิดกล้องบนสมาร์ทโฟนของคุณเอง ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ทุกครั้งที่ออกท่าทาง AI จะวิเคราะห์ให้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่
และถ้าทำผิดควรจะแก้ไขอย่างไร ก็สามารถบอกกันได้แบบเรียลไทม์
ลองจินตนาการว่าคุณเป็นเด็กที่รักการเล่นฟุตบอลแต่อยู่พื้นที่ห่างไกล จะนั่งรถไปเรียนจากโค้ชทุกวันก็กินเวลาหลายชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีนี้อย่างน้อยก็ช่วยทำให้การเรียนรู้สะดวกขึ้น ส่วนจะทำได้ดีแค่ไหนอยู่ที่ความขยันของแต่ละคนเอง
2. Wearable Tech + AI วิเคราะห์แม่นกว่าตาเห็น
 
ความจริงเทรนด์เรื่อง Wearable Tech ในเกมกีฬามีมาหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ GPS จับการเคลื่อนไหวในการฝึกซ้อมและในการแข่งขันจริง ไปจนถึงการวิเคราะห์ที่ลึกไปกว่านั้น เช่น การใช้เซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับจำนวนการจับบอลด้วยเท้าแต่ละข้าง ความเร็วในการวิ่ง จำนวนครั้งที่วิ่งเร็ว หรือแรงเหวี่ยงจากขาแต่ละข้าง
แต่ตอนนี้เราสามารถไปได้ไกลกว่านั้นแล้ว เพราะเราสามารถตีบวกอุปกรณ์ล้ำสมัยเหล่านี้เข้ากับเทคโนโลยี AI ทำให้สามารถวิเคราะห์การเล่นได้อย่างรวดเร็วในระดับเรียลไทม์ ไม่ต้องมานั่งตัดคลิปตัดฟุตกันให้เหนื่อย
ไม่ใช่แค่เห็นกันในระหว่างการฝึกซ้อม แต่เห็นกันได้ถึงการแข่งขันจริง ซึ่งจะมีส่วนในการกำหนดการแข่งขันได้ เพราะโค้ชสามารถสั่งการหรือตัดสินใจได้ ผู้เล่นเองก็สามารถรู้ว่าตัวเองทำดีหรือไม่ดีในส่วนไหน
3. ดูกีฬาให้อินขึ้นแบบ Immersive ด้วย AR
 
ยุคนี้แฟนกีฬาไม่ได้ดูเอาแค่ความสนุกอย่างเดียว และเราไม่ได้คุยกันแค่เรื่องของความรู้หรือประสบการณ์เท่านั้น เพราะตัวเลขสถิติก็เป็นเรื่องที่เอามาคุยกันได้สนุกไม่น้อยไปกว่ากัน
เรื่องนี้ไม่ได้เกินจริง เพราะในรายการวิเคราะห์ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล หรือบาสเกตบอล ต่างก็มีการนำตัวเลขสถิติมาใช้ประกอบการวิเคราะห์กันอย่างสนุกสนานให้ได้อรรถรสมากกว่าแค่เรื่องของแท็กติก เทคนิค และอื่นๆ
ลองคิดว่าถ้าเราดูอยู่แล้วมองเห็นสถิติขึ้นหน้าจอแบบสดๆ จะสนุกขึ้นแค่ไหน?
ควอเตอร์แบ็กคนนี้ขว้างบอลได้ระยะไกลเท่านี้ ตัววิ่งทำระยะได้เท่านี้ หรือนักฟุตบอลครอสบอลไปแล้วกี่ครั้งในเกมนี้ เข้าจุดไหนหรือถึงเพื่อนคนไหนบ้าง
สิ่งเหล่านี้จะเป็นประสบการณ์ใหม่ในการรับชมกีฬาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในปี 2023 Apple กับ Walt Disney เคยประกาศความร่วมมือในการนำเทคโนโลยี Augmented Reality หรือ AR มาใช้คู่กับ Apple Vision Pro ที่นอกจากจะดูได้พร้อมกันถึง 5 สนามแล้ว ยังมีสถิติประกอบให้ดูด้วย
ESPN ก็มีการนำ AR มาใช้เพื่อให้แฟนๆ ได้เห็นข้อมูลในระหว่างการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล ซึ่งนอกจากจะสร้างสีสันแล้ว ยังเป็นการสร้าง Engagement กับผู้ชมด้วย 
ดังนั้น AR จะเข้ามาเปิดประสบการณ์ Immersive ให้เสมือนเราได้ลงไปเล่นอยู่ในสนามด้วยแน่นอน
4. VAR ที่ไม่ใช่ VAR แบบนั้น
 
เอ่ยชื่อระบบ Video Assistant Referee (VAR) แฟนกีฬาคงรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะมีมาสักพักแล้ว และเอ่อ…ชื่อเสียงไม่ค่อยจะดีสักเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมฟุตบอล
ในความจริงแล้ว VAR ไม่ได้มีแค่ในเกมฟุตบอล แต่มีอีกหลายกีฬาที่นำมาใช้และหลายกีฬาที่ว่านั้นก็ใช้ได้ผลกันค่อนข้างดี ซึ่งปัจจุบัน VAR กำลังจะถูกอัปเกรดขึ้นไปอีกขั้นแล้วด้วยการนำ AI เข้ามาใช้ในการช่วยการตัดสิน
AI เนี่ยนะจะตัดสินกีฬา?
ใช่! AI สามารถช่วยตัดสินกีฬาได้และหลายประเภทกีฬามีแผนการจะนำมาใช้ เช่น ในการแข่งขันรถ F1 ที่เป็นเกมกีฬาที่ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในระดับมิลลิวินาที VAR ซึ่งเริ่มใช้มา 2 ปีแล้ว
โดย AI สามารถช่วยในการตัดสินได้ เพราะถูกสอนให้เข้าใจใน ‘กฎ’ อย่างละเอียด ที่สำคัญคือจะเป็นการตัดสินโดยปราศจาก Bias หรือ ‘อคติ’ ด้วย
อย่างไรก็ดี เพราะเกมกีฬาบางครั้งมีมูลค่ามหาศาลเกินกว่าจะเสี่ยงไหว VAR แบบมี AI ต้องถูกทำให้พร้อมและแน่ใจจริงๆ ซึ่งระหว่างนี้ก็จะนำมาใช้เป็นผู้ช่วยไปก่อน จนสักวันที่มั่นใจได้ว่าชัวร์ก็น่าจะได้เห็นการตัดสินด้วยเทคโนโลยีแบบเต็มๆ
5. ป้องกันการบาดเจ็บแบบดิจิทัล
 
ทุกวันนี้หนึ่งในปัญหาใหญ่ของโลกกีฬาคือเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่น ซึ่งเกิดจากทั้งการแข่งขันที่เข้มข้นรุนแรง ใช้ศักยภาพของร่างกายสูงมาก และอีกเรื่องคือจำนวนโปรแกรมการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นแบบไม่พักเลย
หลายปีที่ผ่านมาในหลายวงการกีฬามีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อช่วยประเมินสภาพร่างกายของนักกีฬาว่าจะเป็นอย่างไร ยังเล่นไหวแค่ไหน ควรจะลงสนามกี่นาที หรือควรจะพักไปเลยเพื่อไม่ให้บาดเจ็บ เช่น ในอเมริกันฟุตบอล NFL จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับรอบชุดแข่งขัน เพื่อเก็บข้อมูลอย่างละเอียดในการทำนายอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้น
แต่ต่อไปด้วยอุปกรณ์ล้ำสมัยและ AI ที่ล้ำหน้า นักกีฬาสามารถใช้อุปกรณ์ตรวจจับ โดยที่จะรู้สภาพร่างกายของตัวเองได้เลยว่าตอนนี้ประเมินแล้วสภาพร่างกายเป็นอย่างไร ความสมบูรณ์เหลือกี่เปอร์เซ็นต์ ตรงไหนต้องระวังเป็นพิเศษ
ข้อมูลเหล่านี้ยังจะช่วยทีมสตาฟฟ์ในการดูแลนักกีฬาได้ดียิ่งขึ้นด้วย เข้าใจปัญหาของแต่ละคน สามารถ Customization การดูแลที่แตกต่างกันออกไปได้
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทั้งเกิดขึ้นแล้ว กำลังพัฒนาอยู่ และมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต ซึ่งจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนกับโลกของกีฬามากขึ้นเรื่อยๆ ทุกที
น่าสนใจว่าในอดีตกีฬาเป็นเรื่องของ ‘ศิลป์’ มากกว่า ‘ศาสตร์’ แต่ปัจจุบันและอนาคตดูเหมือนกำลังจะเป็นเรื่องของ ‘ศาสตร์’ มากกว่า ‘ศิลป์’
โลกกีฬาจะปรับตัวกันอย่างไรและจะมีหน้าตาแบบไหนในอนาคต?
ขอบคุณข้อมูล : THE STANDARD
อ่านบทความเพิ่มเติม : RANKING
 
 
 
 
 
