จัดอันดับ 5 นักเตะค่าเหนื่อยแพงที่สุดในโลกปี Highest-Paid 2025 นำโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับกว่า 3.4 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ ขณะที่ เบนเซม่า, มาห์เรซ, ฮาลันด์, และ เอ็มบัปเป้ ติดโผ พร้อมส่องท็อปเทนที่ “โปรลีก ซาอุฯ” ผงาดครองแทบทั้งหมด
ในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าค่าแรงของนักเตะถีบตัวสูงขึ้นอย่างน่าตกตะลึงเนื่องจากหลายสโมสรกระหายเซ็นสัญญากับดาวเตะระดับบิ๊กเนมด้วยกันทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้ สโมสรจาก พรีเมียร์ลีก และ ลา ลีกา ครองความเป็นเจ้าของการจ่ายค่าแรงนักเตะ แต่ถึงวันนี้ทีมจาก ซาอุดิ อาระเบีย ผงาดขึ้นมาสวมบททีมสายเปย์แทนซะแล้วในช่องสองปีหลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่รู้กันว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รั้งอันดับหนึ่งในหมู่นักเตะที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดในโลก Highest-Paid หลังต่อสัญญากับ อัล นาสเซอร์ ออกไปอีกสองปี
5 นักเตะค่าเหนื่อยแพงสุดของโลก Highest-Paid 2025 โรนัลโด้ครองเบอร์ 1
1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (สัปดาห์ละ 3.4 ล้านปอนด์ , ปีละ 178 ล้านปอนด์)
สโมสร : อัล นาสเซอร์ , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2027
โรนัลโด้ ถือเป็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์รายแรกที่ย้ายมาเล่นในลีก ซาอุดิ อาระเบีย อย่างน่าช็อก แถมต่อสัญญาใหม่กับทีมอีกสองปีหมาดๆหลังย้ายมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แบบไม่มีค่าตัวในเดือนม.ค.2023 ดาวยิงทีมชาติ โปรตุกีสขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดในโลกทันทีแม้เขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้ตัดสินใจด้วยเหตุผลทางด้านรายได้
“ผมมาที่นี่เพื่อพัฒนาลีก มันเป็นสิ่งที่ผมต้องการ พวกเขาบอกว่าผมจบเห่แล้ว ผมมาที่นี่เพราะเงิน แต่ผมยังมีแพสชั่น พวกเขาไม่เชื่อ แต่ผมมาที่นี่เพื่อชนะ” โรนัลโด้ ยืนยัน
ในวัย 40 ปี “ซีอาร์เซเว่น” ได้รางวัลรองเท้าทองคำของ โปร ลีก สองปีซ้อน และตอนนี้เขามุ่งมั่นที่จะสอยตาข่ายทะลุหลัก 1,000 ประตู
2. ริยาด มาห์เรซ (สัปดาห์ละ 847,162 ปอนด์ , ปีละ 44 ล้านปอนด์)
สโมสร : อัล อาห์ลี , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2027
หลังได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก , เอฟเอ คัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ แมนฯ ซิตี้ ในซีซั่น 2022/23 มาห์เรซ ก็อำลา เรือใบสีฟ้า ไปร่วมทีม อัล อาห์ลี ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์
“ผมได้รับข้อเสนอจาก ซาอุดิ อาระเบีย ชาติมุสลิมซึ่งแน่นอนว่าผมสามารถปกป้องครอบครัวของผมได้ มันเป็นความท้าทายครั้งใหม่เช่นกัน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจย้าย มันไม่มีอะไรซับซ้อน” มาห์เรซ แจง
ถึงตอนนี้เขาได้ค่าแรงสัปดาห์ละ 847,162 ปอนด์ และจะรวมเป็นเงิน 176.2 ล้านปอนด์หากถึงเวลาที่เขาหมดสัญญาในซีซั่น 2026/27
สำหรับซีซั่นที่ผ่านมา สตาร์ทีมชาติ แอลจีเรีย ยิงได้ 9 ประตูและ 8 แอสซิสต์พาทีมซิวแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งทำให้เขาเป็นเพียงนักเตะไม่กี่รายที่ได้แชมป์รายการสูงสุดของสองทวีป
3. คาริม เบนเซม่า (สัปดาห์ละ 811,458 ปอนด์ , ปีละ 42.1 ล้านปอนด์)
สโมสร : อัล อิตติฮัด , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2026
เบนเซม่า ปิดฉากการค้าแข้งอย่างยาวนาน 14 ปีกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 โดยเขาย้ายมาค้าเกือกกับ อัล อิตติฮัด แบบไม่มีค่าตัว
หัวหอกเลือดน้ำหอมลงน้ำหมึกกับทีมในลีก ซาอุดิ อาระเบีย สามปี และได้ค่าแรงมากกว่าอดีตต้นสังกัดในลีกกระทิงดุสองเท่าจากสัปดาห์ละ 389,500 ปอนด์เป็น 811,548 ปอนด์
ประเดิมซีซั่นแรกกับ อัล อิตติฮัด ได้อย่างย่ำแย่ และมีปัญหากับสองกุนซือทั้ง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ และ มาร์เซโล่ กายาร์โด้
อย่างไรก็ดี ซีซั่นที่ผ่านมาระเบิดฟอร์มกดได้ 25 ประตูในทุกรายการพาทีมของ โลร็องต์ บล็องก์ นายใหญ่ร่วมชาติคว้าดับเบิ้ลแชมป์ของประเทศได้สำเร็จ อีกทั้งได้ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ โปร ลีก ด้วย
4. ซาดิโอ มาเน่ (สัปดาห์ละ 649,166 ปอนด์ , ปีละ 33.7 ล้านปอนด์)
สโมสร : อัล นาสเซอร์ , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2026
มาเน่ เป็นเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง คูลิบาลี่ และ เอดูอาร์ เมนดี้ ที่มุ่งหน้าไปโกยเงินในลีก ซาอุดิ อาระเบีย
กระนั้นก็ดี อดีตดาวเตะ ลิเวอร์พูล เลือกย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค ไปค้าแข้งกับ อัล นาสเซอร์ และได้ค่าแรงมากกว่าสองเพื่อนร่วมชาติด้วย
ขณะเดียวกัน มาเน่ ใช้เงินก้อนโตที่ได้มาไปซื้อทีมระดับดิวิชั่นสี่ของ ฝรั่งเศส อีกทั้งยังทำงานด้านการกุศลในบ้านเกิดอย่างต่อเนื่อง
ถึงตอนนี้ มาเน่ ยิงประตูให้ อัล นาสเซอร์ ไปแล้ว 37 ลูก และ 25 แอสซิสต์จาก 93 นัด แต่ยังไม่อาจพาทีมซิวแชมป์ โปร ลีก ได้
5. คาลิดู คูลิบาลี่ (สัปดาห์ละ 563,152 ปอนด์, ปีละ 29.2 ล้านปอนด์)
สโมสร : อัล ฮิลาล , สิ้นสุดสัญญา : 30 มิ.ย.2026
หลังย้ายจาก นาโปลี มาล้มเหลวกับ เชลซี แค่ซีซั่นเดียว คูลิบาลี่ ก็โบกมือลาลอนดอนไปหากินกับ อัล ฮิลาล ด้วยการเซ็นสัญญาสามปี
สตาร์ทีมชาติ เซเนกัล ประสบความสำเร็จได้แชมป์ โปร ลีก ในซีซั่น 2023/24 และปัจจุบันเป็นกองหลังที่มีค่าเหนื่อยสูงที่สุดในโลก
“ผมไม่ขอปฏิเสธ ผมสามารถช่วยเหลือครอบครัวทั้งหมดของผมให้มีชีวิตที่ได้ดีตั้งแต่พ่อแม่ไปจนถึงญาติ” คูลิบาลี่ ยอมรับกับสื่อว่าย้ายมาเล่นใน ซาอุดิ อาระเบีย ก็เพราะเงิน
“ผมเริ่มสร้างคลินิคในหมู่บ้านของพ่อแม่ด้วย ผมมีโปรเจ็กต์อีกมากมายสำหรับการช่วยเหลือคนหนุ่มสาว ผมไม่ต้องการนั่งเฉยๆที่ข้างสนามโดยที่ไม่ได้ทำอะไร ผมอยากย้ายไปอยู่กับทีมที่ต้องการผมอย่างแท้จริง”