Skip to content
ranking5

Ranking5

Primary Menu
  • SPORT
  • TECH
  • CARS
  • GAME
  • HEALTH
  • BLOG
  • Home
  • บทความ
  • 5 อันดับ บริษัท (Company) ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
  • บทความ
  • พลังงานหมุนเวียนและสิ่งแวดล้อม

5 อันดับ บริษัท (Company) ที่ใหญ่ที่สุดในไทย

LnW Loon 3 กรกฎาคม 2025
company

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับการลงทุนในบริษัท (Company) ที่มีมูลค่าธุรกิจสูง เนื่องจากสะท้อนถึงความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่จะมีแต่ขาขึ้นเสมอไป ดังนั้น การได้ทราบรายละเอียดว่าบริษัทเหล่านั้นทำธุรกิจอะไรบ้างจึงเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกหุ้นไทยน่าลงทุนได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงจะพาไปทำความรู้จักกับ 5 บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุดในประเทศไทย พร้อมสำรวจว่าธุรกิจหลักของพวกเขาเป็นอย่างไร และมีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกในภาพรวม

เจาะลึก 5 บริษัท (Company) ที่ใหญ่ที่สุดในไทยตามมูลค่าในตลาดหุ้น

1. DELTA - บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

เชื่อว่าหลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าบริษัท (Company) ที่ใหญ่ที่สุดในไทยตามมูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (Market Cap) คือ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือชื่อหุ้นว่า DELTA โดยบริษัทนี้ถือเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีระดับโลก โดยเฉพาะในด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการจัดการพลังงานไฟฟ้า ธุรกิจหลักของ DELTA ครอบคลุมถึงการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เช่น Power Management Solutions ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายประเภท

อีกทั้ง DELTA ยังเป็นผู้ผลิต DC Fan (พัดลมระบายความร้อน) ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยพัดลมเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ ไปจนถึงระบบระบายความร้อนในยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีการผลิต EMI ฟิลเตอร์ และ โซลินอยด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์ที่ต้องการลดการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

ด้วยฐานการผลิตที่กระจายอยู่ใน เอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้ DELTA จึงสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกได้อย่างยอดเยี่ยม และยังได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

  • มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ – 1,896,020.05 ล้านบาท
  • P/E – 88.21 เท่า
  • P/BV – 24.56 เท่า

2. PTT - บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

เมื่อนึกถึงหุ้นไทยน่าซื้อที่อยู่คู่กับตลาดหลักทรัพย์มาอย่างยาวนาน และทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี คงจะต้องนึกถึง PTT หรือ ปตท. ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัท (Company) ที่มีบทบาทสำคัญในภาคพลังงานของประเทศไทย และยังขยายธุรกิจสู่ระดับโลกอีกด้วย การดำเนินธุรกิจของ PTT ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เช่น การสำรวจ การผลิต การขนส่ง และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลังงาน

ธุรกิจหลักของ PTT ได้แก่ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ซึ่งครอบคลุมการจัดหา การผลิต และการขนส่งก๊าซธรรมชาติผ่านระบบท่อส่งก๊าซที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึง ธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก ที่คนไทยรู้จักกันดีผ่านสถานีบริการ PTT Station ที่มีเครือข่ายกว้างขวางที่สุดในประเทศไทย

นอกจากนี้ ปตท. ยังดำเนินธุรกิจในด้านปิโตรเคมีและการกลั่น โดยผลิตวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ รวมถึงขยายธุรกิจสู่พลังงานหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนในระยะยาว เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Station)

ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่และโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับเศรษฐกิจอนาคต PTT จึงเป็นหุ้นไทยน่าลงทุนในระยะยาว และมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย

⦁ มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ – 921,156.63 ล้านบาท
⦁ P/E – 8.11 เท่า
⦁ P/BV – 0.82 เท่า

 

1

3. AOT - บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

เหตุผลที่ทำให้ AOT หรือ ทอท. เป็นอีกหนึ่งหุ้นไทยน่าซื้อ คือการที่หุ้นนี้เป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการท่าอากาศยานในประเทศไทยที่สำคัญที่สุด บริษัทนี้มีหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงานของท่าอากาศยาน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่


บทบาทหลักของ AOT คือการพัฒนาและบริหารจัดการท่าอากาศยานให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ถือเป็นศูนย์กลางการบินของประเทศไทย นอกจากนี้ AOT ยังมีโครงการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การขยายอาคารผู้โดยสารใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ


⦁ มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ – 882,141.98 ล้านบาท
⦁ P/E – 45.99 เท่า
⦁ P/BV – 7.10 เท่า

4. ADVANC - บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

เมื่อพูดชื่อหุ้น ADVANC หลายคนอาจจะยังขมวดคิ้ว แต่ถ้าบอกว่าหุ้นนี้คือ AIS เชื่อว่าทุกคนต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะ ADVANC หรือ AIS คือผู้นำในธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการให้บริการด้านเครือข่ายการสื่อสารและดิจิทัลโซลูชัน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศด้วยเทคโนโลยี 5G และยังเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ภายใต้แบรนด์ AIS Fibre ที่ได้รับความนิยมจากครัวเรือนทั่วประเทศ


นอกจากนี้ AIS ยังขยายธุรกิจสู่ด้านดิจิทัล เช่น การพัฒนา IoT (Internet of Things) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร รวมถึงโซลูชันทางดิจิทัลที่ช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล


ด้วยการลงทุนในโครงข่ายและเทคโนโลยี AIS จึงเป็นอีกหนึ่งหุ้นไทยน่าลงทุนในระยะยาว จากการที่บริษัทช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของประเทศไทยทั้งในอดีตสู่อนาคต


⦁ มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ – 850,623.98 ล้านบาท
⦁ P/E – 25.92 เท่า
⦁ P/BV – 9.65 เท่า

5. GULF - บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

ถ้าพูดถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ และเป็นหุ้นไทยน่าซื้อ คงไม่พูดถึงบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF คงไม่ได้ เพราะนี่คือบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนในหลากหลายธุรกิจ โดยมุ่งเน้นใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค และธุรกิจดิจิทัล


ในด้านธุรกิจพลังงาน GULF เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย โดยมีการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม บริษัทมีโรงไฟฟ้าที่ให้บริการทั้งภาครัฐ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และภาคเอกชน ซึ่งโครงการเหล่านี้ช่วยสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศและส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน


ขณะที่ด้านธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค GULF ก็มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและการบริหารจัดการทรัพยากร เช่น การลงทุนในมอเตอร์เวย์เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าและการเดินทางที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการพัฒนาท่าเรือที่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ


สุดท้ายคือด้านธุรกิจดิจิทัล ที่ GULF มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น บล็อกเชน (Blockchain) และระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ รวมถึงการพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลไฟแนนซ์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในยุคดิจิทัล


⦁ มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ – 718,655.44 ล้านบาท
⦁ P/E – 37.76 เท่า
⦁ P/BV – 6.07 เท่า

ข้อมูลอ้างอิง:
⦁ Largest companies in Thailand by market cap. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567

ขอบคุณข้อมูล : CafeiNVEST
อ่านบทความและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมจากเรา : RANKING5

Continue Reading

Previous: 5 อันดับหุ้นไทย (Stocks) อนาคตไกล ปันผลดี ยั่งยืนได้

Related News

stocks
  • บทความ

5 อันดับหุ้นไทย (Stocks) อนาคตไกล ปันผลดี ยั่งยืนได้

LnW Loon 2 กรกฎาคม 2025
etf
  • บทความ

5 อันดับกองทุนรวม ETF ‘ผลตอบแทน’ สูงสุด

LnW Loon 29 มิถุนายน 2025
โรงไฟฟ้า
  • พลังงานหมุนเวียนและสิ่งแวดล้อม

5 อันดับโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในไทย

LnW Loon 25 มิถุนายน 2025

Recent Posts

  • 5 อันดับ บริษัท (Company) ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
  • 5 อันดับหุ้นไทย (Stocks) อนาคตไกล ปันผลดี ยั่งยืนได้
  • 5 อันดับจังหวัด ที่ประชาชนดื่มแอลกอฮอล์ (Alcohol) มากที่สุด
  • 5 สัญญาณอาการ โรคสมองเสื่อม (Dementia) ความจำเสื่อม
  • 5 อันดับกองทุนรวม ETF ‘ผลตอบแทน’ สูงสุด

Archives

  • กรกฎาคม 2025
  • มิถุนายน 2025
  • พฤษภาคม 2025
  • เมษายน 2025

Categories

  • กีฬา
  • บทความ
  • พลังงานหมุนเวียนและสิ่งแวดล้อม
  • สุขภาพและการแพทย์
  • เกมส์
  • เทคโนโลยี & นวัตกรรม

You may have missed

company
  • บทความ
  • พลังงานหมุนเวียนและสิ่งแวดล้อม

5 อันดับ บริษัท (Company) ที่ใหญ่ที่สุดในไทย

LnW Loon 3 กรกฎาคม 2025
stocks
  • บทความ

5 อันดับหุ้นไทย (Stocks) อนาคตไกล ปันผลดี ยั่งยืนได้

LnW Loon 2 กรกฎาคม 2025
alcohol
  • สุขภาพและการแพทย์
  • กีฬา

5 อันดับจังหวัด ที่ประชาชนดื่มแอลกอฮอล์ (Alcohol) มากที่สุด

LnW Loon 1 กรกฎาคม 2025
dementia
  • สุขภาพและการแพทย์

5 สัญญาณอาการ โรคสมองเสื่อม (Dementia) ความจำเสื่อม

LnW Loon 30 มิถุนายน 2025
  • SPORT
  • TECH
  • CARS
  • GAME
  • HEALTH
  • BLOG
Copyright © All rights reserved. | MoreNews by AF themes.